เมื่อไม่นานมานี้ Xiaomi ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีย์ใหม่ ที่มาพร้อมกับราคาที่เข้าถึงได้ทุกคน ในชื่อของ ‘Redmi Note 13 Series’ จะมีอะไรน่าสนใจยังไง เราไปดูกันเลย
Xiaomi ประเทศไทย เริ่มต้นปี 2024 ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่จาก Redmi Note 13 Series ในตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีด้วยกัน 3 รุ่น ได้แก่ Redmi Note 13 Pro Plus 5G, Redmi Note 13 5G และ Redmi Note 13
Alex Tang ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Xiaomi International กล่าวว่า Xiaomi เป็นแบรนด์เทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ โดย Redmi Note 13 Series เป็นมือถือที่เน้นการทำตลาดในระดับกลาง ซึ่งซีรีส์นี้ได้แรงบันดาลใจมาจากแนวคิด Every shot iconic หรือโดดเด่นในทุกชอต
พร้อมกันนี้ Xiaomi ได้เปิดตัว “แบมแบม กันต์พิมุกต์” ได้เปิดตัวแอมบาสเดอร์คนแรกของ Xiaomi International ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมด้านการสื่อสารและสะท้อนภาพลักษณ์ รวมทั้งคอนเซปต์ของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งยังจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ทั่วโลกได้ เพราะแบมแบมเป็นตัวอย่างของคนที่มีทั้งความสามารถและความพยายามในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ
Redmi Note 13 Pro Plus 5G
ในบรรดาสมาร์ทโฟนจาก Redmi Note 13 Series ถือได้ว่า Redmi Note 13 Pro Plus 5G เป็นรุ่นระดับสูงสุด มาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (OIS) และมีการซูมแบบไม่สูญเสียคุณภาพ 2x/4x
ตัวกล้องของ Redmi Note 13 Pro Plus 5G มีเซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.4" และใช้เทคโนโลยี Pixel-binning ช่วยในการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย แต่ยังได้ภาพที่คมชัด พร้อมด้วยเลนส์ 7P ซึ่งช่วยลดแสงแฟลร์และภาพซ้อน
มาพร้อมกล้องหลังด้วยกัน 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล กล้องอัลตราไวด์ 8 ล้านพิกเซล และกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล ปิดท้ายด้วยกล้องหน้าเซลฟี่ 16 ล้านพิกเซล
ทางด้านการออกแบบของ Redmi Note 13 Pro Plus 5G การออกแบบที่ทันสมัยและโฉบเฉี่ยวพร้อมขอบจอที่บางเฉียบ ใช้หน้าจอแบบ AMOLED ขนาดหน้าจอ 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K ความสว่างสูงสุด 1800 nits รองรับอัตรารีเฟรชเรต 120Hz
นอกจากนี้ยังมีมาตรฐานกันฝุ่นและกันน้ำกระเซ็นระดับ IP68 ระบบขับเคลื่อนด้วยชิปเซต MediaTek Dimensity 7200-Ultra แบตเตอรี่ให้มาที่ 5,000mAh
Redmi Note 13 Pro Plus 5G มีด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีดำ Midnight Black, สีขาว Moonlight White และสีม่วง Aurora Purple มีให้เลือก 2 ราคาแบ่งตามความจุ ดังนี้
- Redmi Note 13 Pro Plus 5G รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 13,990 บาท
- Redmi Note 13 Pro Plus 5G รุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 15,990 บาท
Redmi Note 13 5G และ Redmi Note 13
ในขณะที่รุ่น Redmi Note 13 5G มาพร้อมกล้องความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ซูมแบบไม่เสียคุณภาพ 3x ร่วมด้วยฟิลเตอร์แบบกล้องฟิล์ม เพื่อให้ปรับแต่งภาพได้ตามต้องการ
มาพร้อมกับกล้อง 3 ตัว กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล กล้องอัลตราไวด์ 8 ล้านพิกเซล และกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าแบบเซลฟี่ 16 ล้านพิกเซล
หน้าจอของ Redmi Note 13 5G และ Redmi Note 13 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED FHD+ บนขนาดหน้าจอ 6.67 นิ้ว รีเฟรชเรตสูงสุด 120Hz
นอกจากนี้ยังมีมาตรฐานการป้องกันฝุ่นและน้ำกระเซ็นที่ระดับ IP54 แบตเตอรี่ของทั้ง Redmi Note 13 5G และ Redmi Note 13 ให้มาที่ 5,000 mAh
ในส่วนราคาจำหน่ายของ Redmi Note 13 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ Graphite Black, สีเขียว Ocean Teal และสีขาว Arctic White มีให้เลือก 2 ราคาแบ่งตามความจุ ดังนี้
- Redmi Note 13 5G รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 7,999 บาท
- Redmi Note 13 5G รุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 9,999 บาท
ทางด้าน Redmi Note 13 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีดำ Midnight Black, สีเขียว Mint Green และ Ocean Sunset โดยมีให้เลือกรุ่นเดียว นั่นคือ Redmi Note 13 รุ่นความจุ 8GB+256GB ในราคา 6,999 บาท
หากใครกำลังมองหาบริการทำเว็ปไซต์ แอปพลิเคชั่น พัฒนาซอฟต์แวร์ด้วย Microsoft.Net, Umbraco, Orchard, React โปรดติดต่อ CNXDevSoft โทร 093-183-8823
Need a website, mobile applications, and software development service with Microsoft.Net, Umbraco, Orchard, React, please contact CNXDevSoft 093-183-8823, Chiang Mai, Thailand
ขอบคุณที่มาจาก https://www.thairath.co.th/news/tech/2755461